-
อังกฤษทดลองใช้ AI จับคนขับรถเล่นมือถือ ไม่คาดเข็มขัด ส่งค่าปรับถึงบ้าน
เว็บไซต์สำนักงานทางหลวงแห่งสหราชอาณาจักร หรือ National Highways ระบุว่า เริ่มมีการนำเทคโนโลยี AI มาทดลองใช้ตรวจจับผู้ขับรถยนต์ที่เล่นมือถือ และไม่คาดเข็มขัดบนท้องถนนอังกฤษ การทดลองนี้เป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานทางหลวงอังกฤษ และ AECOM บริษัทที่ปรึกษาด้านโครงสร้างพื้นฐานข้ามชาติ มีการทดลองโครงการนี้ครั้งแรกในปี 2021 […]
-
หน่วยดับเพลิงนิวยอร์กใช้ AI เพิ่มประสิทธิภาพ หลังเหตุร้ายเพิ่มขึ้น
สำนักงานดับเพลิงนิวยอร์ก (FNYD) กำลังนำเทคโนโลยี AI จากศูนย์วิจัย C2SMARTER ซึ่งเชี่ยวชาญด้านขนส่งอัจฉริยะมาใช้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองเหตุฉุกเฉิน เมื่อเกิดเหตุและหลบหลีกพื้นที่ที่มีการจราจรติดขัด ความร่วมมือดังกล่าวคือการสร้าง Digital Twin โดยจะมีการเริ่มโครงการและทำวิจัยในพื้นที่ West Halem […]
-
ส่องกฎใหม่ ระบบ eCall ในสหภาพยุโรป
สหภาพยุโรบประกาศใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับระบบ eCall ในรถยนต์ กฎหมายใหม่นี้มีบริบทเดียวกันกับกฎระเบียบที่เพิ่งประกาศไปเกี่ยวกับอุปกรณ์ eCall ใน PSAP การออกกฎระเบียบใหม่นี้เพื่อให้ระบบรองรับทำงานบนเครือข่ายแบบ packet-switched networks หรือเครือข่ายแบบสลับแพ็กเกจ 4G หรือ 5G ซึ่งคาดว่าจะมีการปิดเครือข่าย […]
ถึงเวลาแล้วหรือยัง? ที่ประเทศไทยต้องมี Public Warning แจ้งเหตุฉุกเฉินสาธารณะ
เป็นอีกครั้งที่เรื่องของความปลอดภัยในพื้นที่สาธารณะ ได้ถูกนำมาพูดถึงอีกครั้ง หลังเกิดเหตุอาชญากรรมในห้างสรรพสินค้าใจกลางกรุง อันนำมาซึ่งความความหวาดกลัวและความสูญเสีย จนเกิดคำถามตามมาว่า ระบบการแจ้งเตือนและรักษาความปลอดภัยที่มีทุกวันนี้เพียงพอแล้วหรือยัง แล้วเหตุใดในประเทศไทยจึงยังไม่มีระบบ Public Warning ที่เหมือนต่างประเทศเสียที
หากยังจำกันได้ก่อนหน้านี้ที่เคยเกิดเหตุลักษณะเดียวกันในบ้านเรา หรือเมื่อครั้งเกิดโศกนาฏกรรมอิแทวอนในประเทศเกาหลี ก็ได้มีการพูดถึงระบบการแจ้งเตือนเหตุฉุกเฉิน หรือ Mass Notification ผ่านข้อความ Cell Broadcast ที่ส่งตรงถึงโทรศัพท์มือถือของประชาชนโดยตรงกันมาแล้ว โดยหลายประเทศที่มีการนำระบบนี้มาใช้และเรียกชื่อระบบต่างกันไป เช่น
- EAS ของ สหรัฐอเมริกา
- Korean Public Alert Service ของเกาหลีใต้
- J-Alert ของญี่ปุ่น
- Public Warning System ของไต้หวัน
- ECBS ของฟิลิปปินส์
- Fr-Alert ของฝรั่งเศส
- และ EU-Alert ที่ใช้กันในสหภาพยุโรป รวมถึงในประเทศอื่น ๆ อีก 20 ประเทศทั่วโลก
ขณะที่ล่าสุดเมื่อเดือนที่ผ่านมา อิตาลีก็ได้มีการทดสอบระบบแจ้งเตือน IT-Alert ตามพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วประเทศ ส่วนในประเทศไทยเองจะมีการนำระบบการแจ้งเตือนสาธารณะของกรมอุตุนิยมวิทยามาใช้ เพื่อแจ้งเตือนภัยพิบัติภายในพื้นที่เสี่ยงบางแห่ง แต่ระบบจากภาครัฐหรืองานความมั่นคงที่ควรนำมาใช้ในวงกว้างร่วมมือกับค่ายโทรศัพท์มือถือ เพื่อแจ้งเตือนเหตุอุบัติภัย เหตุอาชญากรรม หรือโศกนาฏกรรมร้ายแรง “กลับยังไม่มี” มีเพียงระบบแจ้งเตือนจากภาคเอกชน หรือข่าวสารจากประชาชนในโลกโซเชียลที่ในบางครั้งเต็มไปด้วยข้อมูลลวง
ทั้งนี้ กรณีการนำระบบแจ้งเตือนผ่าน SMS มาใช้ ที่เห็นได้ชัดในบ้านเรา ก็เช่น SMS แจ้งเตือนสึนามิ อย่าง Phuket SOS ของจังหวัดภูเก็ต และแอปพลิเคชัน THAI DISASTER ALERT ที่มีฟีเจอร์การแจ้งเตือนจากกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) กระทรวงมหาดไทย ขณะที่ตามท้องถิ่นบางแห่งมีการแจ้งเตือนผ่านกลุ่มไลน์ หรือผ่านระบบที่ใช้กันเองในท้องถิ่น
และแม้จะเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่านี่อาจไม่ใช่ครั้งสุดท้าย ฉะนั้นควรถึงเวลาแล้วหรือไม่ที่หน่วยงานและองค์กรต่าง ๆ รวมถึงผู้ประกอบการและภาคเอกชน ควรหันมาให้ความสำคัญกับระบบการแจ้งเตือน และระบบรักษาความปลอดภัยสาธารณะที่มีประสิทธิภาพ ที่ประชาชนในทุกพื้นที่สามารถเข้าถึงได้
หลังจากนี้คงต้องมาดูกันว่า เมื่อประชาชนเรียกร้องระบบความปลอดภัยที่มีประสิทธิภาพ กระทั่งในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ได้มีการกล่าวถึงมาตรการตรวจอาวุธในพื้นที่สาธารณะ การเตือนภัยสาธารณะในเหตุฉุกเฉิน รวมถึงประเด็นเรื่องระบบรักษาความปลอดภัย และระบบ SMS แจ้งเตือนจากรัฐ…แล้วหน่วยงานใดบ้างจะเห็นความสำคัญ ผลักดันให้เกิดระบบ Public Safety ที่เป็นรูปธรรมอย่างแท้จริงเสียที
และในฐานะที่ Security Pitch เป็นองค์กรมองเห็นความสำคัญเกี่ยวกับความปลอดภัย และมีความพยายามในการสร้างระบบนิเวศด้านความปลอดภัยที่ไร้รอยต่อในสังคม ขอไว้อาลัยให้กับการสูญเสียในครั้งนี้ และคาดหวังว่าในสักวันหนึ่งความปลอดภัยสาธารณะจะถูกให้ความสำคัญอย่างเต็มรูปแบบ และไม่เกิดเหตุการณ์ขึ้นซ้ำรอยอีกต่อไป
.
ล่าสุด เมื่อเวลา 13.13 น. เพจ สรยุทธ สุทัศนะจินดา กรรมกรข่าว ได้ออกมาเปิดเผยว่าทางกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจ และสังคม กำลังมีการพัฒนาระบบการแจ้งเตือน เจาะแบบเจาะจงพื้นที่ บริเวณทำเนียบรัฐบาล ด้วยระบบ SMS ผ่านเครือข่าย AIS และ True โดยในเวลาต่อมา โฆษกประจำประธาน กสทช. เปิดเผยว่า กสทช. ได้หารือกับผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือทุกราย และยืนยันความพร้อมในการจัดทำ ‘ระบบเตือนภัยฉุกเฉิน’ ผ่าน SMS แบบ Location Base Service System ที่สามารถทำได้ทันที และจะมีพัฒนาระบบ การเตือนภัยแบบ Cell Broadcast System ซึ่งเป็นการเตือนแบบเรียลไทม์ และเป็นอัตโนมัติแม้ปิดเครื่อง ซึ่งคาดว่าจะสามารถให้สามารถใช้งานได้จริงภายใน 1 ปี
สอบถามเพิ่มเติมเกี่ยวกับ OneForce
Tel. : 081-972-2500
Line : @securitypitch
Email : [email protected]